This diary from WordPress
I need to move it to here too.
01
_________________
หลักการตั้งคำถาม
ทุกท่านหลายๆ ครั้งอาจเคยผ่านเหตุการณ์ ไม่ว่าจะเป็นตั้งเเต่ในห้องเรียน จนถึงการประชุมในที่ทำงาน
ยังคงเป็นเรื่องอึดอัดใจหลายๆ คนเวลาตอนที่ผู้บรรยาย หรือผู้พูดได้จบด้วยการว่า
“มีใครมีคำถามอะไรไหม”
เราลองจินตนาการถึงห้องที่เงียบ ได้ยินเสียงนกร้องข้างนอกหน้าต่างเบาๆ พร้อมกันเสียงลมพัด
เเละบรรยากาศที่ ไม่มีใครถามอะไร อาจจะเพราะ ไม่กล้าถาม หรือไม่มีคำถามจริง
การที่เราฟัง มันเเทบจะเป็นไปไม่ได้ที่เราจะเข้าใจทั้งหมด จริงๆ เเล้วมันมีคำถาม
อยุ่เเล้วเเต่เราเพียงเเค่คิดไม่ทันว่าเราไม่เข้าใจตรงไหน จนกว่าจะได้ลองคิดตาม
เเล้วทีนี้ หลักการเเก้ปัญหาละ ถ้าเราอยากจะเป็นคนที่มีคนถาม
การถามคำถามไม่ได้เป็นการ สร้างความลำบากใจให้กับผู้ถาม กลับเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำ เพราะผู้พูดก็อยากจะได้ feedback กับมาจากผู้ฟังนั้นเเหละ
เทคนิคการตั้งคำถามที่เหมาะสม จากหนังสือ Output
- เราจะต้องตั้งคำถามระหว่างที่เรากำลังฟัง เพราะเราก็ไม่รู้ว่าผู้ถามจะถามเมื่อไหร่ เป็นสิ่งทีต้องฝึกฝน การตั้งคำถามระหว่างที่เรากำลังฟังยังช่วยให้สมองเราจดจ่อกับการฟังมากขึ้นอีกด้วย
- ตั้งคำถามที่ทำให้อีกฝ่ายดีใจ คือการถามสิ่งที่ผู้พูดมีเเนวโน้มที่จะอยากพูด หรือส่วนที่พูดอาจจะยังไม่ละเอียดพอ การตั้งคำถามเเบบนี้จะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดีใจ
- ตั้งคำถามที่ทำให้ผู้ที่รับฟังพร้อมเราดีใจ เวลาการฟังส่วนมากผู้ฟังที่นั่งฟัง เรียน หรือประชุมพร้อมกับเรานั้น ก็อยากรู้เรื่องที่เราถามเหมือนกัน พอเวลาเราถามไป คนที่เป็นผู้ร่วมการฟังกับเราก็จะรู้สึกขอบคุณ ที่เราถาม
- ตั้งคำถามที่ช่วยให้การถกปัญหามีความเข้มขึ้น คำถามมีอยู่ง 2 ประเภทคือ คำถามนอกประเด็น กับคำถามที่ทำให้ปัญหามีความเข้มข้นขึ้น เราต้องพยายามตั้งคำถามให้ไปเเนวทางเดียวกับเนื้อหาที่พูด เพื่อที่จะได้ไม่ออกนอกประเด็น
จงคิดไว้เสมอเวลาเราฟัง ไม่ว่าจะเรียน สัมนา ประชุม ให้คิดว่าตัวเราเองเป็นนักข่าวหัวเห็ด
ขอบคุณหนังสือ The power of Out Put
No comments:
Post a Comment